วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557


คำถาม
1.ซอฟต์แวร์(Software)คืออะไร  ?
ตอบ ซอฟต์แวร์ คือ โปรแกรมชุดคำสั่งไว้ควบคมคอมฯให้ทำงาน

2.ซอฟต์แวร์มีความจำเป็นหรือใม่ ?
ตอบ  จะเห็นได้ว่าปัจจุบันการที่คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้มากมาย เพราะว่ามีการพัฒนาโปรแกรมหรือซอฟท์แวร์เพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ดังที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านค้า เป็นต้น
3.ซอฟต์แวแบ่งกี่ประเภทอะไรบ้าง ?
ตอบมี 2 ประเภท คือ 1.ซอฟต์แวร์ระบบ คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ 

4.ซอฟต์แวละบบคืออะไร ?
ตอบ  คือ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อปฏิบัติการกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และเพื่อจัดเตรียมและบำรุงรักษาแพลตฟอร์มจากการทำงานของโปรแกรมประยุกต์
  
5.ซอฟต์แวร์ประยุกต์คคืออะไร ?
ตอบ   ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับทำงานต่าง ตามที่ต้องการ เช่น การทำงานเอกสาร งานกราฟิก งานนำเสนอ หรือเป็น Software สำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมงานทะเบียน โปรแกรมการให้บริการเว็บ โปรแกรมงานด้านธนาคาร

6.ระบบปฏิบัติการแบ่งออกเป็นกี่ชนิดอะไรบ้าง ?
ตอบ  แบ่งได้ออกเป็น  3  ชนิด  คือ
  -   ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone  OS)  เป็นระบบปฏิบัติการที่มุ่งเน้นและให้บริการสำหรับผู้ใช้เพียงคนเดียว(เจ้าของเครื่องนั้นๆ)  นิยมใช้สำหรรรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลและทำงานแบบทั่วไป  เช่น  เครื่องคอมพิวเตอร์หรือสำนักงาน  ซึ่งจะถูกติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้ไว้ใช้รองรับการทำงานบางอย่าง  เช่น  พิมพ์รายงาน  ดูหนังหรือเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต  เป็นต้น  ปัจจุบันพัฒนาให้มมมมีคุณสมบัติที่เป็นเครื่องลูกข่ายเพื่อขอรับบริการ  จากเครื่องแม่ข่ายได้ด้วย
         -   ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย  (network OS)  เป็นระบบการที่มุ่งเน้นและบริการสำหรับผู้ใช้หลายๆคน(multi-user)  นิยมใช้สำหรับงานให้บริการและประมวลผลข้อมูลสำหรับเครือข่ายโดยเฉพาะ  มักพบเห็นได้กับการนำไปใช้ในองค์กรธุรกิจทั่วไป  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการเหล่านี้จะเรียกว่า เครื่อง  sever  ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องแม่ข่ายที่ให้บริการข้อมูลต่างๆ  ที่จำเป็นสำหรับผุ้ใช้นั่นเอง
         -   ระบบปฏิบัติการแบบฝัง   (embeded OS)  เป็นระบบปฏิบัติการที่พบเห็นได้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก เช่น พีดีเอ หรือSmart phone บางรุ่น  สามารถช่วยในการทำงานของอุปกรณ์แบบไม่ประจำที่เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี  เกิดขึ้นมาหลังสุดพร้อมๆกับที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาเหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้น  บางระบบมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยวด้วย เช่น รองรับการทำงานทั่วไป ดูหนัง  ฟังเพลงหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้










วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หน่วยส่งออก

   การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์


      
     home.kku.ac.th



   หน่วยส่งออก

   หน่วยส่งออก (Output Unit)  คอมพิวเตอร์ติดต่อกับมนุษย์โดยแสดงผลของการทำงานให้มนุษย์รับรู้ทางหน่วยแสดงผล หน่วยแสดงผลที่สำคัญสำหรับไมโครคอมพิวเตอร์ คือ จอภาพ (Monitor) ลำโพง (Speaker) และเครื่องพิมพ์ (Printer) เครื่องขับแผ่นบันทึกนั้นก็นับว่าเป็นหน่วยแสดงผลเหมือนกันเพราะคอมพิวเตอร์อาจจะแสดงผลโดยการบันทึกผลลัพธ์ลงบนแผ่นบันทึกได้
จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์บางอย่างเป็นได้ทั้งอุปกรณ์รับข้อมูลและแสดงผล ซึ่งได้แก่ เครื่องขับแผ่นบันทึก เครื่องขับจานแม่เหล็ก เครื่องขับเทปแม่เหล็ก เป็นต้น โดยจะเรียกอุปกรณ์เหล่านี้ตามหน้าที่ในขณะที่ทำงานร่วมกับหน่วยความจำหลัก คือ ถ้าเป็นการนำข้อมูลเข้ามาหน่วยความจำหลัก ก็จะเรียกอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์รับข้อมูล แต่ถ้าเป็นการนำข้อมูลออกจากหน่วยความจำหลัก ก็จะเรียกว่าอุปกรณ์แสดงผล

1.1 หน่วยส่งออกชั่วคราว
   จอภาพ (Monitor)  คืออุปกรณ์ที่แสดงผลให้ผู้ใช้เห็นในเวลาที่ทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์และถือได้ว่าเป็นหน่วยส่งออกที่ผู้ใช้คุ้นเคยที่สุด การแสดงผลบนจอภาพเกิดจากการสร้างจุดจำนวนมากเรียงกันทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ประกอบกันเป็นรูปภาพหรือตัวอักษร จำนวนของจุดดังกล่าวจะเป็นตัวกำหนดความชัดเจนของภาพที่เห็นบนจอ     ในยุคต้นของไมโครคอมพิวเตอร์นั้น ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พยายามนำของใช้ที่มีอยู่ประจำบ้านมาเป็นส่วนประกอบ เช่น นำเอาเครื่องรับโทรทัศน์มาใช้เป็นจอภาพสำหรับแสดงผล แต่ผลที่ได้ออกมาไม่เป็นที่พึงพอใจ จึงได้มีการผลิตจอภาพที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งจอภาพที่ผลิตในแต่ละยุคก็มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีจอภาพที่ใช้งานอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ 

  1. จอภาพแบบซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT)

จอภาพแบบนี้จะใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป เป็นจอภาพที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีหลอดรังสีอิเล็กตรอนคือการยิงแสงอิเล็กตรอนไปยังผิวด้านในของจอภาพ ผิวของจอภาพดังกล่าวจะฉาบด้วยสารฟอสฟอรัส ทำให้ตำแหน่งที่มีอิเล็กตรอนวิ่งมาชนเกิดแสงสว่างขึ้น แสงสว่างที่แต่ละจุดทำให้เห็นเป็นภาพ การผลิตจอภาพแบบซีอาร์ทีได้พัฒนาตลอดเวลา เช่น จอภาพเอ็กซ์วีจีเอ (XVGA) เป็นรุ่นที่ปรับปรุงจากจอภาพสีละเอียดพิเศษ สามารถแสดงภาพกราฟิกได้ละเอียดขนาด 1,024 x 768 จุดต่อตารางนิ้ว และแสดงสีได้มากกว่า 256 สีพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคของจอภาพ เช่น ขนาดของจอภาพ ซึ่งจะวัดตามแนวเส้นทแยงมุมของจอว่าเป็นขนาดกี่นิ้ว โดยทั่วไปจะมีขนาด 14 นิ้ว จอภาพที่แสดงผลงานกราฟิกบางแบบอาจต้องใช้ขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว ความละเอียดของจุดซึ่งสามารถสังเกตได้จากสัญญาณแถบความถี่ของจอภาพ จอภาพแบบวีจีเอควรมีสัญญาณแถบความถี่สูงกว่า 25 เมกะเฮิรตซ์ สัญญาณแถบความถี่ยิ่งสูงยิ่งดี จอภาพแบบเอ็กซ์วีจีเออาจแสดงผลแบบมัลติซิงค์ (Multisync) ใช้สัญญาณแถบความถี่สูงกว่า 60 เมกะเฮิรตซ์ ขนาดของจุดยิ่งเล็กยิ่งมีความคมชัด เช่น ขนาดจุด 0.28 มิลลิเมตร ภาพที่ได้จะคมชัดกว่าขนาดจุด 0.33 มิลลิเมตร ค่าของสัญญาณแถบความถี่จึงเป็นข้อที่จะต้องพิจารณาด้วย

     2.  จอภาพแบบแอลซีดี (Liquid Crystal Display : LCD)
  จอภาพแบบนี้จะใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป เป็นจอภาพที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีหลอด  
 รังสีอิเล็กตรอนคือการยิงแสงอิเล็กตรอนไปยังผิวด้านในของจอภาพ ผิวของจอภาพดังกล่าวจะฉาบ สาร ฟอสฟอรัส ทำให้ตำแหน่งที่มีอิเล็กตรอนวิ่งมาชนเกิดแสงสว่างขึ้น


      3. จอภาพพลาสมา (Plasma Monitor)
 คือ จอภาพที่ประกอบขึ้นจากแผ่นแก้วสองชุดวางชิดกัน ช่องว่างนี้จะถูกแบ่งออกเป็นเซลล์แสงกว้าง 100-200 ไมครอน มีชั้นผนัง (rib) กั้นไว้ โดยใช้ขั้วไฟฟ้าในแนวกระจกคอยควบคุมตำแหน่งของเซลล์เหล่านั้น แต่ละเซลล์จะบรรจุก๊าซที่ผสมระหว่างก๊าซซีนอนและก๊าซเฉื่อยอื่นๆ กลไกการทำงานของจอภาพพลาสมา จะมีการเรืองแสงขึ้นเองเหมือนการทำงานของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์กล่าวคือ ก๊าซในเซลล์เหล่านี้เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงดันไฟฟ้าจะเกิดการไอออนไนซ์ขึ้นทำให้ก๊าซแตกประจุและปล่อยแสงอุลตราไวโอเล็ตออกมา สารเรื่องแสงจะดูดซับอุลตราไวโอเล็ตและสร้างสีที่มองเห็นได้ด้วยตา ทำให้เรามองเห็นเป็นภาพได้   



  4. จอภาพแอลอีดี(Light Emitting Diod Monitor :LED)
     
เป็นจอภาพที่เป็นเทคโนโลยีใหม่  เป็นยุคถัดไปที่จะมาแทนที่แอลซีดี  เรียกว่า จอภาพแบบโอแอลอีดี(OLED) จะใช้หลอดแอลอีดีมาเรียงรายกันบนพาแนลแล้วทำให้เกิดภาพด้วยการติด – ดับของหลอดแอลซีดีซึ่งก็ได้ภาพที่ตาเรามองเห็นออกมา  ซึ่งในเสลานี้มันยังมีราคาที่สูงเอามากๆ  มีแต่ตัวตันแบบออกมาให้เห็นเท่านั้นเอง  ด้วยต้นทุนที่สูงอยู่ทำให้ยังไม่สามารถผลิตออกมาเพื่อจำ
หน่วยได้จริง  รวมไปถึงยังพัฒนาไปได้ไม่เต็มที่นัก  เพราะยังไม่สามารถผลิตจอภาพโอแอลอีดีที่มีขนาดใหญ่มาก  อีกทั้งคุณภาพที่ได้เทียบกับจอแอลซีดีรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาเยอะแล้ว  ภาพของแอลซีดียังถือว่าทำได้ดีกว่า  และยิ่งเทียบกับราคาต่อขนาดกันแล้ว  ในเวลานี้เลิกคิดจอโอแอลอีดีกันไปได้เลย  รออีกอย่างน้อยต้นปีหน้า  เราถึงจะได้เห็นจอภาพแบบโอแอลดอีดีตัวแท้ๆ  ออกมาจำหน่วยแต่ก็ยังไม่กล้าคิดถึงราคาว่าจะสูงเพียงใด



 1.2 อุปกรณ์ฉายภาพ (Projector)
.โปรเจคเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการเรียนการสอนหรือการประชุม เนื่องจากสามารถนำเสนอข้อมูลให้แก่ผู้ชมจำนวนมากเห็นพร้อม ๆ กัน อุปกรณ์ฉายภาพในปัจจุบันจะมีอยู่หลายแบบ ทั้งที่สามารถต่อสัญญาณจากคอมพิวเตอร์โดยตรง หรือใช้อุปกรณ์พิเศษในการวางลงบนเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ (OverHead Projector) ธรรมดา เหมือนกับอุปกรณ์นั้นเป็นแผ่นใส อุปกรณ์ฉายภาพจะมีข้อแตกต่างกันมากในเรื่องของกำลังแสงสว่าง เนื่องจากยิ่งมีกำลังส่องสว่างสูงภาพที่ได้ก็จะชัดเจนมากขึ้น กำลังส่องสว่างมีหน่วยวัดค่าอยู่ 3 แบบ คือ LUX, LUMEN และ ANSI LUMEN โดยการวัดแบบ LUX จะวัดค่าความสว่างที่จุดกึ่งกลางของภาพ จึงได้ค่าความสว่างสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 แบบ การวัดแบบ LUMEN จะแบ่งภาพออกเป็น 3 ส่วน คือ บน กลางและล่าง และแต่ละส่วนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 จุด คือ ริมซ้าย กลาง และริมขวา รวมจุดภาพทั้งหมด 9 จุด แล้วจึงใช้ค่าเฉลี่ยของความสว่างทั้ง 9 จุด คิดออกมาเป็นค่า LUMEN ส่วนการวัดแบบ ANSI LUMEN จะมีมาตรฐานสูงสุด โดยใช้วิธีเดียวกับ LUMEN แต่จะกำหนดขนาดจอภาพไว้คงที่คือ 40 นิ้ว (หากไม่กำหนดการวัดค่าความสว่างจะสูงขึ้นเมื่อจอภาพมีขนาดเล็กลง)
 

http://www.thaigoodview.com


1.3ลำโพง ( Loudspeaker, Speaker) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชิงกลอย่างหนึ่ง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง มีด้วยกันหลายแบบ คำว่า ลำโพงมักจะเรียกรวมกัน ทั้งดอกลำโพง หรือตัวขับ (driver) และลำโพงทั้งตู้ (speaker system) ที่ประกอบด้วยลำโพงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับแบ่งย่านความถี่ (ครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์ก)
ลำโพงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในระบบเครื่องเสียง โดยมีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าปลายนิ้ว จนถึงใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนับสิบนิ้ว โดยมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน

forum.munkonggadget.com


2. หน่วยแสดงผลถาวร (Hard Copy) 
        หมายถึง การแสดงผลที่สามารถจับต้อง และเคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ มักจะออกมาในรูปของกระดาษ ซึ่งผู้ใช้สามารถนำไปใช้ในที่ต่าง ๆ หรือให้ผู้ร่วมงานดูในที่ใด ๆ ก็ได้ อุปกรณ์ที่ใช ้เช่น การพิมพ์เอกสารด้วยเครื่องพิมพ์
2.1 เครื่องพิมพ์ (Printer)
1. เครื่องพิมพ์กระทบ
เครื่องพิมพ์แบบกระทบ มีหลายลักษณะ เป็นเครื่องพิมพ์ที่อาศัย การกดหัวพิมพ์กับแถบผ้าหมึก เพื่อให้เกิดตัวอักษร ได้แก่ เครื่องพิมพ์แบบเรียงจุด (Dot Matrix Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ ที่ได้รับความนิยม โดยองค์ประกอบสำคัญได้แก่ หัวพิมพ์ (Print Head) ที่ประกอบไปด้วยเข็มพิมพ์ 9 เข็ม หรือ 24 เข็ม (ทำให้เรียกเครื่องพิมพ์ชนิดนี้ ได้อีกว่า เครื่องพิมพ์ 9 เข็ม และเครื่องพิมพ์ 24 เข็ม) ชุดของเข็มพิมพ์แบบ 9 เข็มจะเรียงตรงกันในแนวตั้งคอลัมน์เดียว ส่วนชุดของเข็มพิมพ์แบบ 24 เข็ม จะเรียงกันในแนวตั้งโดยแบ่งเป็น 3 คอลัมน์ ๆ ละ 8 เข็ม วางเหลื่อมกันระหว่างคอลัมน์ โดยหัวเข็มจะกระแทกผ่านผ้าหมึก ลงบนกระดาษ ทำให้เกิดอักษรขึ้นมา


3.  เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (inkjet printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสีคือแดง เหลืองและน้ำเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบนกระดาษ ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีที่สวยงาม



http://www.radompon.com


3. หลักการเลือกคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการทำงาน เพื่อให้ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้และคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไป ผู้ใช้ควรศึกษาถึงหลักการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ควรคำนึงถึงและทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนเลือกซื้อมาใช้งานอาจปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้


3.1การสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์


ทำให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับงานมากสุด การแบ่งระดับการใช้งานคอมพิวเตอร์ อาจแบ่งได้เป็นหลายประเภท แต่โดยส่วนใหญ่มักแบ่งตามประเภทของผู้ใช้ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

๑)      ระดับผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้มือใหม่
ผู้ใช้ทั่วไปเป็นผู้ใช้สำหรับงานด้านเอกสาร รายงาน และเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมสำเร็จรูป เช่นMicrosoft Office เพื่อจัดทำเอกสาร รายงานเพื่อนำเสนอ หรืออาจใช้โปรแกรม Photoshop แต่งภาพเล็กน้อย เป็นต้น ส่วนผู้ใช้มือใหม่เป็นผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัสคอมพิวเตอร์มาก่อนแนะนำให้ซื้อแบบมียี่ห้อ จะดีกว่า เพราะจะไม่ต้องกังวลเวลาที่เครื่องมีปัญหา ผู้ใช้ระดับนี้อาจใช้แบบลองผิดลองถูกบ้าง อาจทำให้เครื่องเกิดปัญหาบ่อยครั้ง จึงไม่ต้องเลือกคอมพิวเตอร์ราคาแพง
๒)    ระดับผู้ใช้งานด้านกราฟิก (graphic user)
 งานด้านกราฟิก เช่น งานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโฆษณาต้องใช้ฮาร์ดแวร์และโปรแกรมต่างๆที่มีคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์สูงพอควร บางครั้งต้องใช้โปรแกรมพร้อมกันหลายตัว เช่น Photoshop ,Illustrator, CorelDraw เป็นต้น ซึ่งราคาจะอยู่ในระดับกลางถึงสูง ผู้ใช้จึงควรประกอบคอมพิวเตอร์ใช้เอง เพราะทำให้รับความรู้มากขึ้น สามารถกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องได้ตามลักษณะของเครื่องได้ตามลักษณะเฉพาะของงานด้านกราฟิก และใช้โปรแกรมต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓)    ระดับผู้ใช้งานด้านกราฟิกขั้นสูง (advanced graphic user)
 แสดงผลในรูปแบบสามมิติ หรือ 3D animation จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการคำนวณระดับสูง เช่น การสร้างภาพในรูปแบบสามมิติ โดยใช้โปรแกรม Auto CAD, 3D Studio Max เป็นต้น จึงควรประกอบคอมพิวเตอร์ขึ้นเองเช่นกัน
๔)    ระดับผู้เล่นเกม (game user) 
เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยที่ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถรองรับเกมที่มีภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว แต่ราคาอุปกรณ์ต่างๆไม่สูงมากจนเกินไป จึงควรประกอบคอมพิวเตอร์ใช้เอง จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ควรเล่นเกมมากจนกลายเป็นคนติดเกม เพราะทำให้เสียการเรียนและยังสิ้นเปลืองค่ใช้จ่ายผู้ปกครองอีกด้วย


บทสรุป

    การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ เป็นกระบวนการทำงานที่ดำเนินการอย่างมีระบบ ซึ่งมีความสัมพันธ์กันใทุกขั้นตอน ประกอบด้วย หน่วยรับข้อมูลหรือหน่วยรับเข้า(Input Unit) ประกอบด้วย อุปกรณ์รับเข้า เช่น แป้นพิมพ์ , เครื่องสแกนเนอร์ หรือ ไมโครโฟน , หน่วยประมวลผลกลาง (Cenrol Processing Unit) ประกอบด้วย หน่วยควบคุม (Control Unit) และหน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmatic and Logical Unit), หน่วยความจำ (Memory Unit) ซึ่งประกอบด้วย หน่วยความจำหลัก (Primary Memory unit) และ หน่วยความจำรอง (Secodary Memory unit) ประกอบด้วย อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และหน่วยแสดงผลหรือหน่วยส่งออก (Output Unit) ประกอบด้วยอุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพ , เครื่องพิมพ์ หรือลำโพง